วันพฤหัสบดีที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

เลี้ยงกุ้งได้ ปลอดโรค รู้เขา รู้เรา เลี้ยงกุ้งง่าย ได้กำไรทุกค๊อบ ไม่เสียเวลา-พื้นที่

ไคโตซานฟาร์มOK นาโนเทค จุลินทรีย์เชิงบวก


ไคโตซานฟาร์มOKใช้อย่างไร จึงได้ประโยชน์ในการเลี้ยงกุ้ง



หากกล่าวถึงไคโตซาน เป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นสารตัวใหม่ที่นำมาใช้ในการเลี้ยงสัตว์น้ำมากกว่า 10กว่าปี ซึ่งพบว่ามีประโยชน์มากกับการเลี้ยงสัตว์น้ำหลายชนิด เช่น กุ้ง ปลา กบ

ไคโตซานเป็นสารโพลิเมอร์ ธรรมชาติ ที่ได้จากการสกัดจากเปลือกกุ้ง ประกอบไปด้วย น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว(กลูโคซามีน)เรียงต่อกันเป็นสายยาว ไคโตซานที่นำมาใช้ในการเลี้ยงสัตว์ มีคุณสมบัติและลักษณะที่ดีมีค่า DEGREE OF DEACETYALATION ที่สูง มากกว่า 90 และเป็นไคโตซาน ที่ผ่านกระบวนการทำให้บริสุทธิ์ปราศจากการปนเปื้อน ของเชื้อโรค เช่น เชื้อรา เชื้อแบคทีเรียเชื้อไวรัส เชื้อโรคอย่างสิ้นเชิง

✍ประโยชน์ของไคโตซาน ฟาร์มOKเลี้ยงกุ้ง เลี้ยงปลา เลี้ยงกบ

💢 กุ้งทุกชนิด กุ้งทุกสายพันธุ์ กุ้งทุกประเภท

ฟาร์มOK เป็นสารตั้งต้น ในการสร้างเนื้อเยื่อและเปลือก กระตุ้นให้มีการลอกคราบได้ดีโตเร็วลอกคราบง่าย

ฟาร์มOK เพิ่มการไหลเวียนของเลือดกุ้งทำให้มีการหมุนเวียนของสารอาหารดีและขับถ่ายของเสียดีขึ้น

ฟาร์มOK เพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับกุ้งทุกชนิดเพิ่มภูมิต้านทานให้กุ้งแข็งแรงต่อต้านเชื้อโรคเชื้อไวรัสเชื้อราทุกชนิด

ฟาร์มOK ใช้เป็นสารเคลือบอาหารกุ้งเพื่อให้อาหารคงทนไม่ละลายสูญเสียไปกับน้ำ ลดค่าใช้จ่าย ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตดี

ฟาร์มOK ใช้จับตะกอนและควบคุมปริมาณสาหร่ายในน้ำ ช่วยปรับค่าน้ำคุมPH ปรับน้ำให้สมดุลคงที่ และย่อยสลายของเสีย ลดแอมโมเนีย ลดกลิ่นเหม็น ช่วยส่งเสริมจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง ช่วยให้น้ำโปร่ง ปลดปล่อยไนโตเจน เพิ่มอ๊อกซิเจนในน้ำ ถึงแม้อากาศจะร้อน แต่น้ำในบ่อเลี้ยงจะเย็น

ฟาร์มOK ช่วยป้องกันกุ้งไม่ให้ติดเชื้อไวรัส เชื้อราได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรใช้ฟาร์มOKผสมอาหารกุ้งอย่างสม่ำเสมอและเป็นประจำทุกวัน

💢 ใช้ได้กับตะพาบน้ำ และปลาทุกชนิด

ฟาร์มOK เพิ่มสีในปลาให้เข้มขึ้นสีจัดขึ้นโดยเฉพาะปลาคาร์ฟสีแดงจะเข้มมาก

ฟาร์มOK จะกระตุ้นให้ปลากินอาหารได้มากขึ้น ระบบย่อยอาหารแข็งแรง ฟาร์มOKเพิ่มอัตราการเจริญเติบโตในปลาได้ดี

💢 ใช้ได้กับกบทุกชนิด ทุกสายพันธุ์

ฟาร์มOKช่วยให้กบกินอาหารได้ดีขึ้นกบโตเร็วขึ้น ไคโตซานเสริมความแข็งแรงให้กับระบบย่อยอาหารของกบ ไคโตซานช่วยปรับปรุงคุณภาพน้ำในบ่อเลี้ยงกบให้สมดุลเหมาะสม


ประสิทธิภาพของไคโตซานในการใช้เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆมีดังนี้

1.ใช้เคลือบเม็ดอาหารกุ้งและ สัตว์น้ำอื่นๆ เพื่อให้เม็ดอาหารแตกตัวช้า รวมทั้งใช้ในการเคลือบยา วิตามินและอาหารเสริมอื่นๆ เพื่อไม่ให้ละลายไปกับน้ำในบ่อเลี้ยง เนื่องจากไคโตซานจะมีคุณสมบัติ ไม่ละลายน้ำเมื่อแห้ง และจะเก็บสารอาหารยาและวิตามินไว้ในเม็ดอาหารได้ดี สามารถใช้ไคโตซานเคลือบอาหารเพื่อทดแทนน้ำมันเคลือบทั้งหลาย เช่น น้ำมันปลาหมึกน้ำมันหอย คอเลสเตอรอล น้ำมันปลาทะเล ซึ่งน้ำมันเหล่านี้จะทำให้ตับกุ้งบวมเหลือง เนื่องจากตับกุ้ง ย่อยไขมันไม่ไหว ไขมันจะค้างอยู่ในตับกุ้งเป็นจำนวนมาก

2. ใช้บำรุงตับ เพื่อสุขภาพกุ้ง และเสริมสร้างเปลือก ใช้ไคโตซานประมาณ 10-20 ซีซี.ต่ออาหารกุ้ง 1 กิโลกรัม เคลือบอาหารกุ้งแล้วทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที -1 ชั่วโมง จนเม็ดอาหารแห้ง ควรผสมไคโตซานให้กุ้งกินเป็นประจำตั้งแต่เล็กๆ(เริ่มผสมที่อาหารเบอร์ 2 )เมื่อกุ้งได้รับไคโตซานอย่างต่อเนื่องสุขภาพจะดีขึ้น การดีดตัวดีขึ้น กล้ามเนื้อใสเหมือนแก้ว การลอกคราบเป็นปกติ มีเปลือกที่หนาแข็งแรงเป็นมันเงา กุ้งที่เลี้ยงไคโตซานจะไม่ติดเชื้อโรคจากไวรัส แบคทีเรียเชื้อรา และปรสิต

     " คำถาม และ คำตอบ "


แล้วมีความจำเป็นหรือไม่ ที่จะเลือกใช้ไคโตซานในการเลี้ยงกุ้ง โดยปกติกุ้งจะมีการสร้างเปลือก ลอกคราบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อการเจริญเติบโตกุ้งที่มีคุณภาพสมบูรณ์แข็งแรง มีการจัดการบ่อเลี้ยงที่ดี และคุณภาพน้ำที่ดี ก่อนปล่อยกุ้งหนาแน่น มีความจำเป็นต้องใช้ไคโตซานเพื่อเสริมสุขภาพกุ้งแต่จะเลือกใช้ไคโตซานเสริมสร้างเมื่อมีข้อสังเกตุจากการเลี้ยงดังนี้...

🦐 ปล่อยกุ้งหนาแน่นได้ดี กุ้งขาวแวนาไม 150,000 ตัว/ต่อไร่ หรือ 200,000 ตัว/ต่อไร่ กุ้งกุลาดำ 50,000 ตัว/ต่อไร่ 80,000 ตัว/ต่อไร่
🦐 กุ้งลอกคราบช้าโตช้า
🦐 กล้ามเนื้อกุ้งขุ่นไม่ใสสะอาด
🦐 ลอกคราบเปลือกนิ่มบาง เปลือกแข็งตัวช้า
🦐 ต้องการเคลือบวิตามินยาให้ละลายอย่างช้าๆ
🦐 ลูกกุ้งที่ปล่อยลงบ่อไปไม่เกิน 20 วันมีอาการอ่อนแอให้เห็น
🦐 กุ้งมีแผลสีดำตามเปลือกต้องการลอกคราบทิ้งเปลือกที่เป็นแผลออก
🦐 น้ำในบ่อเลี้ยงPHแกว่ง แพลงตอนก์ดร๊อป

☝️เมื่อพบอาการข้อใดข้อหนึ่งตามข้างต้นนี้ สามารถใช้ไคโตซานเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาข้างต้นนี้ได้ แต่ถ้าให้ไคโตซานป้องกันตั้งแต่แรกจะได้ผลดีที่สุดเนื่องจากกุ้งต้องนำไคโตซานเข้าสะสมในตัวทีละน้อยจนมีปริมาณไคโตซานมากพอที่จะเสริมสร้างเปลือกและเนื้อเยื่อได้
การใช้ไคโตซานเพื่อประโยชน์ในการเลี้ยงกุ้งนั้น ผู้เลี้ยงควรจะอดทนรอผลการใช้ประมาณ 1-2 อาทิตย์ เนื่องจากการให้ไคโตซานผสมกับอาหารกุ้ง เพื่อสร้างสุขภาพกุ้งให้แข็งแรง สร้างเปลือก สร้างเนื้อเยื่อ ต้องใช้เวลาให้กุ้งได้สะสมไคตินมากพอที่จะนำไปใช้ประโยชน์ได้และควรให้กุ้งได้รับสารไคโตซานมากพอ โดยผสมอาหารให้กุ้งกินทุกมื้อ ทุกวัน เป็นประจำจนเมื่อกุ้งสมบูรณ์แข็งแรงดีพร้อมจับกุ้งขาย

✍ปัจจุบันนี้มีสินค้าที่ทำจากไคโตซาน มากมายหลายบริษัท แต่ละบริษัทก็มีสูตรที่คล้ายกันบ้าง หรือบางบริษัทก็มีสูตรที่เฉพาะเจาะจงของบริษัทนั้นๆ แต่พื้นฐานของสินค้าทั้งหมดก็มาจากไคโตซานเหมือนกัน ที่จริงแล้วสินค้าที่ทำจากไคโตซานที่มีคุณสมบัติดีนั้นต้องมาจาก

#ขั้นตอนการคัดเลือกวัตถุดิบที่ดี
#การเลือกใช้ไคโตซานที่มีน้ำหนักโมเลกุลเหมาะสมกับจุดประสงค์ของแต่ละการใช้งาน

#วิธีการผสมและความสะอาดของการผลิต

ขั้นตอนที่1.การคัดเลือกวัตถุดิบที่ดี วัตถุดิบที่ดีสำหรับการทําไคโตซานควรจะเป็นของสด เช่น เปลือกกุ้งสด,เปลือกปูสด ระหว่างที่นำมาผลิตต้องเก็บในอุณหภูมิไม่เกิน 4 องศาเซลเซียส ขั้นตอนในการสกัดโปรตีนออกมา ต้องสกัดให้หมดเนื่องจากถ้ามีโปรตีนเหลือ จะทำให้ไคโตซานเน่าเสียได้เมื่อ ทำเป็นสารละลายต้องสกัดแคลเซียมและเกลือแร่ออกให้หมดเพื่อให้มีปริมาณกากเหลือน้อยที่สุดเพื่อที่จะได้ไคตินที่มีประโยชน์มีคุณภาพดีเมื่อนำไปผลิตต่อจะได้ไคโตซานคุณภาพดีที่สุดไคโตซานที่มีคุณภาพดีควรมีค่า DD (DEGREE OF DEACETYLATION) มากกว่า 90 ขึ้นไป ค่าดีดี( DD)เป็นค่าที่แสดงให้เห็นว่า ไคโตซานที่มีค่าดีดี (DD)สูงมาก จะละลายได้ดีมากมีส่วนที่เป็นกากน้อยสารละลายที่ได้จะมีความใสสะอาดมากตรงกันข้ามกับไคโตซานที่มีค่าดีดี(DD)ต่ำ จะละลายยากและมีความขุ่นมาก สารละลายที่ได้จะไม่ใสสะอาด เนื่องจากมีกากและส่วนที่ไม่ละลายมากไม่เหมาะสมกับการนำมาใช้ผสมเป็น ผลิตภัณฑ์ที่ต้องการคุณภาพ เช่น อาหารคน อาหารกุ้ง สารเสริมภูมิคุ้มกันพืชทางใบ แต่สามารถนำไคโตซานที่มีค่าดีดี(DD)ต่ำมาใช้เป็นปุ๋ยผสมดินบำบัดน้ำเสียได้ เนื่องจากไม่จำเป็นต้องใช้ไคโตซานที่มีค่าดีดี(DD)สูงนัก ดังนั้นไคโตซานที่มีคุณภาพดีจะสังเกตได้จากค่าดีดี(DD)ที่สูง ถ้าสามารถขอรับใบรับรองคุณภาพผลิตภัณฑ์จากผู้ขายได้จะดีมาก ไคโตซานที่มีเนื้อสารละลายที่ใสสะอาดไม่มีตะกอนและผลิตมาจากบริษัทที่เชื่อถือได้ว่ามีความชำนาญมีกรรมวิธีการผลิตที่สะอาดได้มาตรฐานเนื่องจากไคโตซานที่ไม่บริสุทธิ์เมื่อนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปจะเน่าเสียเร็วมีความขุ่นสูงละลายยากไม่คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป

ขั้นตอนที่2.การเลือกใช้ไคโตซานที่มีน้ำหนักโมเลกุลเหมาะสมกับจุดประสงค์ของแต่ละการใช้งาน ความต้องการใช้ไคโตซานในแต่ละจุดประสงค์นั้นขึ้นกับน้ำหนักโมเลกุลของไคโตซาน ซึ่งไคโตซานที่มีน้ำหนักโมเลกุลน้อยจะมีสายสั้น ไคโตซานที่มีน้ำหนักโมเลกุลมากจะมีสายยาวและธรรมชาติไคโตซานที่มีน้ำหนักโมเลกุลต่างๆ จะคัดมาจากแต่ละส่วนของอวัยวะของกุ้งปู ซึ่งเปลือกของกุ้งปูแต่ละส่วนเมื่อทำเป็นไคโตซานเรียบร้อยแล้ว จะมีน้ำหนักโมเลกุลไม่เหมือนกันเปลือกกุ้ง เปลือกปู ที่ถูกเก็บมาอย่างดีด้วยความเย็นจัดจะให้โมเลกุลที่สม่ำเสมอมากกว่า เปลือกกุ้งเปลือกปูตากแห้งที่ไม่ได้เก็บด้วยความเย็น เปลือกที่ตากแห้งจะมีเศษโปรตีนปนเปื้อนมากกว่าเปลือกสดจะทำให้ได้ไคโตซานที่มีคุณภาพต่ำกว่าการใช้เปลือกกุ้ง เปลือกปูสดมาผลิต จุดประสงค์ในการคัดเลือกไคโตซานที่มีน้ำหนักโมเลกุลต่างๆ มาใช้งานก็เพื่อที่ จะต้องการให้ไคโตซาน มีผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุด เหมาะกับจุดประสงค์นั้นๆ เช่น เมื่อต้องการใช้เคลือบเม็ดอาหารกุ้ง อาหารปลาและอาหารกบ จะได้ไคโตซานที่มีน้ำหนักโมเลกุลสูงและน้ำหนักโมเลกุลปานกลางเป็นส่วนใหญ่ถ้าต้องการใช้กับพืชจะต้องใช้ไคโตซานที่มีน้ำหนักโมเลกุลต่ำมากๆ หรือถ้าต้องการใช้ไคโตซานในการเคลือบผักผลไม้เพื่อยืดอายุการเก็บรักษาควรจะใช้ไคโตซานที่มีน้ำหนักโมเลกุลสูงมากๆ

ขั้นตอนที่3. วิธีการผสมและความสะอาดของการผลิต ผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยไคโตซานในแต่ละสูตรนั้น มีวิธีการผสมที่ไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของการใช้งาน และคุณสมบัติของสารละลายไคโตซานที่แตกต่างขึ้นอยู่กับ
✔ กรดอินทรีย์แต่ละชนิด ที่ใช้ทำละลายไคโตซาน
✔ กรรมวิธีการละลายไคโตซาน
✔ อุณหภูมิที่ใช้ขณะทำการละลาย
✔ ภาชนะที่ใช้ทำละลาย
✔ การควบคุมไอออนของโลหะในสารละลาย
✔ การกำจัดแบคทีเรียและเชื้อรา ที่ปนเปื้อนในสารละลาย การควบคุมการผสมโดยผู้เชี่ยวชาญสารละลายไคโตซานที่ดีนั้น จะต้องมีความใสสะอาดสูงปราศจากฝุ่นละออง และกากของไคตินต้องไม่มีกลิ่นเหม็น มีความเข้มข้น เหมาะสมกระบวนการทำละลาย ใช้อุณหภูมิที่เหมาะสม ในภาชนะปลอดสนิม ใช้น้ำที่ปราศจากอาหาร ที่ปราศจากไอออน ในการทำละลาย และผ่านกระบวนการการกำจัดเชื้อรา และแบคทีเรียด้วยความร้อน ขั้นตอนทั้งหมดควรถูกควบคุม โดยผู้ผลิตที่เชี่ยวชาญชำนาญและมีประสบการณ์เกี่ยวกับไคโตซานมาเป็นเวลานานหลายปี...

จบทุกปัญหาเรื่องการเลี้ยงกุ้ง           

จุดดี..ของไคโตซาน ฟาร์มOKนำเข้าพีเมี่ยมฟู๊ดเกรด นวัตกรรมจากประเทศญี่ปุ่น ไม่ผสมสารเคมี เป็นสารสกัดจากเปลือกกุ้ง เพียว 100% สะอาดบริสุทธุิ์ สายพันธุ์สั้น เป็นประจุบวกมีฤทธิ์เป็นด่าง มีอนุภาคเล็กดูดซึมได้เร็วไว ย่อยสลายเร็ว เห็นผลตอบโจทย์เร็ว ส่งเสริมการทำงานของจุลอินทรีย์สังเคราะห์แสง มีสาร(Actiomycetes)แอคติโอมายซีส(ตัวย่อย)ช่วยส่งเสริมการทำงานของจุลอินทรีย์ที่ดี ช่วยย่อยสลายของเสีย จับตะกอนแขวนลอย
มีสาร(Trichoderma)ไตรโคเดอม่า ซึ่งเป็นเชื้อรา(ตัวเขมือบ)ที่กินเชื้อราด้วยกัน
มีโปตัสเซี่ยม ช่วยทำให้กุ้งไม่เป็นตะคริว เพราะกุ้งไม่เครียด
มีไคติน-ไคโตซาน ที่ช่วยให้กุ้งเก็บเอาไปสะสมสร้างเปลือก และลอกคราบง่าย โตเร็ว เนื้อแน่น น้ำหนักดี กำไรงาม  กุ้งสามารถนำไคโตซาน ฟาร์มOKซึ่งมีสารอาหารครบถ้วนสมบูรณ์ไปใช้ในรูปแบบการดูดซึมได้ทันที  จึงแนะนำ : เกษตรกร เปลี่ยนมาใช้ ไคโตซาน ฟาร์ม OK เพราะจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆมากมาย ช่วยลดต้นทุนในการเลี้ยงกุ้ง ได้ปริมาณการเลี้ยงกุ้งมากขึ้น ใช้เลี้ยงกุ้งไม่บาง เลี้ยงกุ้งหนาแน่นจะได้ประโยชน์สูงสุด จะคุ้มค่ากับการลงทุนมากกว่า การเลี้ยงกุ้งบาง




💢 นี่ไม่ใช่การโฆษณา!!! แต่ผลิตภัณฑ์ไคโตซานฟาร์มOK ของ"เฮ็ลธ์ฟู๊ดส์เน็ตเวริค์" สามารถช่วยโลกของเราได้
คลิ๊กเลย>>>https://farmokl2512.blogspot.com/2019/05/ok.html?m=1

💢 "คอนเฟริม์ จบทุกปัญหาบ่อกุ้งเป็นโรคระบาด,แก้แอมโมเนียสูง" คลิ๊กเลย>>>https://farmokl2512.blogspot.com/2019/02/ok.html?m=1

💢 "ฟาร์มOK เลี้ยงกุ้งง่ายจริงๆ">>>คลิกเลย https://farmokl2512.blogspot.com/2019/01/blog-post.html?m=1

💢 "พิชิตกุ้งขี้ขาว" ขี้ขาวหายชัวร์ พิชิตกุ้งขี้ขาวหายจริงๆ คลิ๊กเลย>>> https://farmokl2512.blogspot.com/2018/12/blog-post.html?m=1

สนใจสั่งซื้อ - สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
✍ส่งข้อความและโทรฟรีด้วย 🆔️LINE 0620135665
https://line.me/ti/p/hJ7AGHjAZZ<<< คลิ๊กเลย

ขอบคุณข้อมูลจาก: เคดิต ศูนย์วิจัยการตรวจและวินิจฉัยโรคกุ้งทะเล โรคสัตว์น้ำ

กุ้งขาว กุ้งกุลาดำ เกษตรกรรม บำบัดน้ำเสีย โรคกุ้งEHP โรคกุ้งทุกชนิด 

🦐🦐🦐🦐🦐🦐🦐🦐🦐🦐

ฟาร์มOK มีประโยชน์ต่อการเลี้ยงกุ้งอย่างไร?


ไคโตซาน มีประโยชน์กับการเลี้ยงกุ้งอย่างไร?


ไคโตซาน ฟาร์ม OK เพียวๆ 100 % นวัตกรรมจากประเทศญี่ปุ่น ไม่ผสมเคมี สะอาดบริสุทธิ์ ไม่มีสารเคมีตกค้าง ปลอดภัย ทั้งผู้ใช้ และผู้ขาย รวมถึงผู้บริโภค

✍เริ่มมีการนำไคโตซาน มา ประยุกต์ ใช้ในธุรกิจสัตว์น้ำ โดยเฉพาะการเลี้ยงกุ้ง เมื่อนานมาก กว่าปีนี้ โดยเริ่มจากการนำไคโตซาน มาเคลือบเม็ดอาหารกุ้งก่อน โดยมีความเชื่อว่า ไคโตซานเป็นโพลิเมอร์ธรรมชาติ ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต ในสมัยก่อนนั้น อาหารกุ้งจะมีค่าความคงตัวต่ำ ละลายน้ำได้เร็ว เมื่อแช่อาหารกุ้งในน้ำ 2-3 ชั่วโมง อาหารกุ้งจะละลายตัวเละ ยุ่ยง่าย จนกุ้งไม่สามารถนำเม็ดอาหารกุ้งมากินได้ ทำให้อาหารกุ้งละลายเสียสภาพไป จมน้ำในบ่อเป็นจำนวนมาก และเศษอาหารที่ละลายอยู่ ในน้ำ จึงเป็นปัญหากับคุณภาพ น้ำในบ่อ ก่อให้เกิดการเน่าเสียของน้ำ ทำให้ค่าแอมโมเนีย และไนไตรท์ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนเป็นพิษกับกุ้งในบ่อ หากแก้ไขคุณภาพน้ำในบ่อไม่ทัน อาจทำให้กุ้งเสียหายและตายเป็นจำนวนมาก แต่เมื่อใช้ไคโตซาน ในรูปแบบสารละลายไคโตซานเข้มข้น 3-5 % W/V มาเคลือบเม็ดอาหาร และผึ่งตากทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที เพื่อให้เกิดฟิล์มไคโตซานแห้ง หลังจากเม็ดอาหารถูกเคลือบด้วยไคโตซาน แห้งดีแล้ว จึงนำไปหว่านลงในบ่อกุ้ง เม็ดอาหารจะคงตัวอยู่ในน้ำได้นานถึง 12 ชั่วโมง โดยไม่ละลายตัวกลายเป็นผง ยุ่ยง่าย ยังคงสภาพเป็นเม็ดอยู่ มีเนื้อสัมผัสคล้ายกับลูกชิ้นปลาเนื่องจากไคโตซานจะเข้าไปรัดเม็ดอาหารให้อยู่ในตัวในน้ำ กุ้งสามารถ คีบเม็ดอาหารกินได้ง่าย และ ทำให้คุณภาพของน้ำ ในบ่อดีขึ้น เนื่องจากไม่มีเม็ดอาหารละลายออกมาจนทำให้น้ำในบ่อเสียจนเกิดแอมโมเนีย

💢แต่เมื่อใช้ไคโตซานเคลือบ เม็ดอาหารกุ้ง ให้กินสักระยะหนึ่ง กุ้งจะเริ่มทยอยลอกคราบออกมา เนื่องจากไคโตซานไปเสริมสร้างสารไคตินซึ่งเป็นสารที่กุ้งใช้สำหรับการสร้างเปลือก และเนื้อเยื่อ ซึ่งกุ้งธรรมชาติ ได้รับไคตินสด อย่างเพียงพอ จากเปลือกของสัตว์ทะเลต่างๆที่กุ้งจับกิน เช่น กุ้ง,เคย,กุ้งปูตัวเล็ก,หอย,ปลาหมึก จึงทำให้กุ้งธรรมชาติสามารถลอกคราบได้อย่างปกติ แต่กุ้งในบ่อเลี้ยง ได้รับสารไคตินไม่เพียงพอที่จะช่วยในการลอกคราบ เนื่องจากกุ้งในบ่อเลี้ยงมีจำนวนมาก และถูกเลี้ยงอย่างหนาแน่นปริมาณไคตินที่กุ้งจะได้รับจากอาหารกุ้ง จึงไม่มากเพียงพอถึงแม้นว่ากุ้งจะสามารถสังเคราะห์สารไคตินขึ้นมาได้เองจากอาหารก็ตาม


💢การลอกคราบของกุ้งเกิดจากการสะสมอาหารอย่างเต็มที่ และสร้างสารไคตินขึ้นมาได้เพียงพอกุ้งจึงเริ่มลอกคราบเพื่อขยายขนาดตัว (หลังจากกุ้งลอกคราบกุ้งจะกินคราบเก่าของตัวเอง)เพื่อสร้างไคตินเก็บไว้สำรองสำหรับการลอกคราบครั้งต่อไปกุ้งที่ลอกคราบไปแล้ว จะไม่สามารถลอกคราบได้อีกในระยะเวลาสั้นๆเนื่องจากต้องสะสมอาหารและสร้างสารไคตินสำหรับการสร้างเปลือกให้ได้มากเพียงพอ เสียก่อน จึงสามารถลอกคราบครั้งต่อไปได้

💢ก่อนที่กุ้งจะเริ่มลอกคราบกุ้งจะเริ่มดึงแร่ธาตุจากเปลือกมา เก็บไว้ที่ตับกุ้ง ซึ่งเป็นอวัยวะที่สำคัญที่สุดในตัวกุ้ง ตับกุ้งมีหน้าที่ย่อยอาหารสร้างเอนไซม์เก็บสะสมอาหารและแร่ธาตุต่างๆไว้สำหรับการดำรงชีวิตของกุ้งเมื่อกุ้งลอกคราบแล้วกุ้งจะดึงสารอาหารต่างๆและแร่ธาตุที่เก็บไว้ที่ตับมาใช้ในการสร้างโครงสร้างเปลือก และดูดแร่ธาตุต่างๆจากน้ำผ่านทางเหงือกเพื่อสะสมทำให้เปลือกแข็งในที่สุด


💢กุ้งเก็บสารสร้างเปลือกในรูป สารประกอบไคตินไว้ในตับและเนื้อเยื่อและจะนำมาใช้เมื่อเริ่มลอกคราบหากกุ้งได้อาหารเสริมสารไคติน เช่น ไคโตซาน ก็จะทำให้กุ้งสามารถสร้างสารประกอบไคตินได้มากขึ้นจึงทำให้การลอกคราบง่ายและสมบูรณ์ ซึ่งทำให้มีอัตราการรอดชีวิตสูง การเสริมสารไคตินในอาหารกุ้ง ช่วยให้กุ้งกินอาหารเป็นประจำมีประโยชน์ต่อกุ้งและเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทำให้เลี้ยงกุ้งง่ายขึ้น แข็งแรงขึ้น โตเร็วดีขึ้น ลอกคราบง่ายสมบูรณ์ขึ้น ที่สำคัญ ไคโตซานเป็นสารธรรมชาติที่สกัดมาจากเปลือกกุ้ง 100% จึงเหมาะที่จะนำมาใช้ บำรุงกุ้ง และไม่มีสารตกค้างหรือสารต้องห้ามผ่านการพิสูจน์ประสิทธิภาพมานานมากกว่า 10 ปี ว่า มีประโยชน์เมื่อนำไปใช้กับการเลี้ยงกุ้งและบำบัดน้ำเสียในบ่อเลี้ยงกุ้ง แก้แอมโมเนียสูง






"คอนเฟริม์ จบทุกปัญหาบ่อกุ้งเป็นโรคระบาด,แก้แอมโมเนียสูง" https://farmokl2512.blogspot.com/2019/02/ok.html?m=1<<<คลิกเลย

สนใจสั่งซื้อ - สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
✍ส่งข้อความและโทรฟรีด้วย 🆔️LINE 0620135665
https://line.me/ti/p/hJ7AGHjAZZ<<< คลิ๊กเลย

( เกษตรกรกว่า 99% พอใจกับฟาร์มOK )

กุ้ง สัตว์น้ำ โรคระบาดในกุ้ง โรคกุ้งทุกชนิด เกษตร ปรับค่าพีเอชสมดุล บำบัดน้ำเสีย น้ำเน่ามีกลิ่น แพลงตอนก์ดร๊อป




ขอบคุณข้อมูลจาก: เคดิตศูนย์วิจัยและชันสูตรโรคสัตว์น้ำ สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ

🦐#กุ้งกุลาดำ #กุ้งขาวแวนาไม #บำบัดน้ำเสีย #แก้ปัญหาแก๊สไข่เน่า #ลดแอมโมเนีย #ปรับค่าพีเอชให้สมดุลคงที่


วันอังคารที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

โรค EHP - SHIV รักษาได้

โรค EHP - SHIVมีงานวิจัย มีทางรักษาให้หายขาดได้จริง



โรค EHP - SHIV
เกิดจากเชื้อราเห็ด และ ปรสิต ระบาดในกุ้งขาวแวนาไม และ กุ้งกุลาดำ
EHP กับ SHIV โรคใหม่กุ้ง ประมงหวั่นซ้ำรอย EMS
..นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง เผยว่า ขณะนี้มีรายงานในต่างประเทศพบโรคระบาดในกุ้ง 2 โรค ทำให้มีอัตราการตายสูง ได้แก่ โรค Hepatopancreatic microsporidioisis caused by Enterocyto- zoon hepatopenaei หรือ EHP ที่เกิดจากเชื้อไมโครสปอริเดีย ส่งผลให้กุ้งโตช้า แตกไซส์ อาจทำให้เกิดอาการขี้ขาว กุ้งทยอยตาย กับโรค Shrimp hemocyte iridescent virus หรือ SHIV เพื่อเป็นการป้องกัน เฝ้าระวังและควบคุมไม่ให้เชื้อโรคดังกล่าวเข้ามาแพร่ระบาดในประเทศไทย โดยเฉพาะจากการนำเข้าพ่อแม่พันธุ์กุ้งหรืออาหารมีชีวิตมาจากต่างประเทศ

ฟาร์มOK ไคโตซาน นวัตกรรมจากประเทศญี่ปุ่น สายพันธุ์สั้น ไม่มีส่วนผสมของเคมี ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต

โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ออกประกาศกำหนดให้โรค EHP และโรค SHIV ซึ่งเกิดในกุ้งเป็นโรคภายใต้ พ.ร.บ.โรค ระบาดสัตว์ เช่นเดียวกับโรคอื่นๆในสัตว์น้ำที่เคยมีการประกาศไปแล้วก่อนหน้านี้ 38 โรค

"การเพาะเลี้ยงกุ้งภายในประเทศ จำเป็นต้องปรับเข้าสู่ระบบปิด" และจัดการฟาร์มตามหลักไบโอซีเคียวริตี้ เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคระบาดในกุ้ง ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผลผลิตกุ้งเหมือนช่วงที่โรค EMS ระบาด ซึ่งมาตรการนี้จะช่วยปกป้องและรักษาเสถียรภาพกุ้งไทยให้เข้มแข็ง”
อธิบดีกรมประมงให้ข้อมูลโรค EHP เกิดจากเชื้อปรสิต Enterocytozoon hepatopenaei จัดอยู่ในกลุ่มของไมโคร-สปอริเดียน ซึ่งเป็นปรสิตที่มีขนาดเล็กมาก (เล็กกว่า 1 ไมครอน ไม่สามารถมองด้วยตาเปล่า) การตรวจสอบต้องใช้กล้องจุลทรรศน์ที่ระดับกำลังขยายสูงสุด โดยมีรายงานการติดเชื้อปรสิตชนิดนี้ในกุ้ง Penaeus japonicas ในประเทศออสเตรเลีย มาตั้งแต่ปี 2544 แม้ว่ากุ้งจะไม่ตายด่วน แบบ EMS แต่จะมีผลทำให้กุ้งโตช้า เลี้ยงต่อไปเกษตรกรจะขาดทุนค่าอาหาร ในประเทศไทยเคยพบปรสิตชนิดนี้ครั้งแรกในกุ้งกุลาดำเมื่อปี 2547 พบในเซลล์ตับและตับอ่อนของกุ้งกุลาดำ แต่พบในสัดส่วนไม่มากพอที่จะก่อให้เกิดโรค EHP


💢ส่วนโรค SHIV หรือไวรัสกุ้งเกล็ดเลือด เป็นเชื้อไวรัสตัวใหม่ในตระกูล Lridoviridae ในเชื้อ L.vannamei โดยสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การประมง แห่งประเทศจีน ตรวจพบในกุ้งขาว Litopenaeus vannamei ที่บ่อเลี้ยงที่เมืองเจ้อเจียงแล้วเกิดตายลงเป็นจำนวนมาก เมื่อปี 2556 พบการตายในกุ้งตัวใหญ่ ลำตัวสีซีด ท้องว่างเพราะไม่กินอาหาร กล้ามเนื้อเปลือกแข็ง ตัวแดงเล็กน้อย และสามารถแพร่เชื้อไปยังกุ้งก้ามกรามได้ด้วย แต่ยังไม่พบการระบาดในบ้านเรา

เกษตรกรกว่า 99% พอใจกับฟาร์มOK พื้นที่ภาคใต้จังหวัดนครศรีธรรมราช


บ่อเลี้ยงกุ้งขาวแวนาไม ใช้ฟาร์มOK โดย เลี้ยงแบบระบบปิด ตลอดระยะการเลี้ยงกุ้งไม่ป่วยเลย น้ำในบ่อเลี้ยงก็ไม่มีปัญหาอะไรเลย นำน้ำและตัวกุ้งไปตรวจที่กรมประมงทุกอาทิตย์ น้ำปกติดี กุ้งไม่ติดเชื้อ 90%
ระยะเวลา 66 วัน
ไซด์  59 ตัว
ราคา 170.- กุ้ง 5 ตันกว่า..








"คอนเฟริม์ จบทุกปัญหาบ่อกุ้งเป็นโรคระบาด,แอมโมเนียสูง" https://farmokl2512.blogspot.com/2019/02/ok.html?m=1<<<คลิกเลย

🌿🍁🌾สนใจสั่งซื้อ - สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
🌿🍁🌾ส่งข้อความและโทรฟรีด้วย 🆔️LINE 0620135665
https://line.me/ti/p/hJ7AGHjAZZ<<< คลิ๊กเลย

เกษตรกรกว่า 99% พอใจกับฟาร์มOK

#กุ้งขี้ขาว #สัตว์น้ำ #โรคระบาดในกุ้ง #โรคกุ้งทุกชนิด #เกษตร #ปรับค่าพีเอชสมดุล #บำบัดน้ำเสีย #น้ำเน่ามีกลิ่น #แพลงตอนก์ดร๊อป #โรคEHP-SHIV


ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก: เคดิต ไทยรัฐฉบับพิมพ์




วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

"คอนเฟริม์ จบทุกปัญหาบ่อกุ้งเป็นโรคระบาด"



ประโยชน์ในการเลี้ยงกุ้ง 

1.ช่วยให้กุ้งสร้างเปลือกได้เร็ว ลอกคราบง่ายโตเร็ว ช่วยให้เปลือกกุ้งแข็งแรง แก้ปัญหาเปลือกกรอบแกรบ ตัวหลวมผอมบางลีบ สำหรับกุ้งที่ไม่ลอกคราบเลย และตัวนิ่ม

2.ประกอบไปด้วยสารไคติน-ไคโตซาน จุลอินทรีย์ แอดติโอมายซีส เชื้อราไตรโคเดอร์มา สารแคลเซี่ยม สารคอปเปอร์ สารโพแทสเซียม และแร่ธาตุต่างๆที่มีอนุภาคเล็กในรูปแบบที่กุ้งสามารถดูดซึมได้เร็ว และนำไปใช้ย่อยสลายได้อย่างรวดเร็วทันที ทำให้กุ้งแข็งแรง

3.ทำให้คุณภาพกุ้งดี ตัวกุ้งใส กุ้งเนื้อแน่น กุ้งแข็งแรง ตัวสวยใสเหมือนกุ้งจากธรรมชาติ

#กุ้งมีภูมิต้านทานโรคได้ดี ช่วยแก้ปัญหาโรคกล้ามเนื้อขาวขุ่น หรือกล้ามเนื้อตาย ตัวเป็นตะคริว ตัวคด ตัวงอ โรคเหงือกดำ กุ้งจิกโก๋หัวโตหางลีบ โรคซูโอเทียมเนียม กุ้งโรคธอร่า กุ้งเป็นแผล โรคกุ้งขี้ขาว โรคหัวเหลือง โรคกุ้งอี.เอ็ม.เอช โรคตัวแดงลายจุด โรคกุ้งดาวกระจาย ฯลฯ

#ลดอัตราการตาย ลดอัตรากุ้งเครียด เพิ่มปริมาณผลผลิตดี ช่วยให้กุ้งไม่มีกลิ่นโคลน มีรสชาติเนื้อกุ้งหวานดีอร่อย

#ช่วยปรับค่า PH ในระหว่างการเลี้ยงให้สมดุลคงที่  เหมาะสำหรับทุกสภาพน้ำทุกพื้นที่ ทุกบ่อเลี้ยง 

#ขนาดบรรจุปริมาณ 1 ลิตร/1แกลลอน เท่ากับ 1,000 ซีซี.ราคา 712 บาท /1ลัง มี 12 ลิตร

#อัตราการใช้การเตรียมบ่อ

(ขั้นตอนที่ 1 )ใช้ฉีดพ่นพื้นบ่อ 1 ไร่/ลึก 1 เมตร ใช้ไคโตซานฟาร์ม OK จำนวน 1 ลิตร/น้ำเปล่า 200 ลิตร ฉีดพ่นพื้นบ่อเพื่อฆ่าเชื้อโรค ตากบ่อไว้ 7 วัน

(ขั้นตอนที่ 2) ปล่อยน้ำลงบ่อเลี้ยง ใช้ไคโตซานฟาร์ม OK จำนวน 1 ลิตร ผสมน้ำเปล่าสาดลงในบ่อเลี้ยง เพื่อช่วยจับสารตะกอนแขวนลอยในมวลน้ำ ทำให้น้ำโปร่ง และช่วยปรับค่า PH ให้สมดุลคงที่ก่อนปล่อยกุ้ง

(ขั้นตอนที่ 3) ก่อนปล่อยลูกกุ้งลงบ่อ ผสมน้ำลงในถัง 200 ลิตร ใส่ไคโตซานฟาร์มOK  50 ซีซี.ลงในถังลูกกุ้ง ประมาณ 20 นาที เพื่อให้มั่นใจว่าลูกกุ้ง แข็งแรงดี แล้วค่อยปล่อยลูกกุ้งลงสู่บ่อเลี้ยง

#ระหว่างการเลี้ยงกุ้ง

ใช้สาดลงบ่อเลี้ยงทุกๆ 7-15 วัน พื้นที่ 1 ไร่/ลึก 1 เมตร/ 1ลิตร /ผสมน้ำสาดหลังใบพัดตีน้ำ เพื่อให้ไคโตซาน ฟาร์ม OKกระจายตัวได้ดี /และผสมอาหารกุ้ง จำนวน 1ลิตร/น้ำ 12 ลิตร/ผสมคลุกอาหาร 100 กิโล ควรใช้คลุกอาหารให้กุ้งกินทุกวันเป็นประจำ กุ้งจะลอกคราบดี ลอกคราบง่าย โตเร็ว แข็งแรง ป้องกันโรค


1 ลิตร /ราคา 712 บาท

ความสำคัญ ของไคโตซานฟาร์มOKต่อการเลี้ยงกุ้ง

  1. กรณีน้ำในบ่อเลี้ยงค่าPHลด-ขึ้น หรืออากาศมีการเปลี่ยนแปลง ให้ใช้ปรับได้ตลอดเวลา ไม่จำกัด
  2. จะช่วยปรับค่าPH ให้สมดุลคงที่ ในระหว่างการเลี้ยงกุ้งได้ดีมากๆช่วยคุมPHดี
  3. จะช่วยลดโลหะหนักในน้ำดักจับโลหะหนักในน้ำได้ดี ด้วยประจุอิออนในตัวไคโตซาน ฟาร์ม OK ทำให้น้ำใสตกตะกอนเร็ว 
  4. ลดการเกิดโรคขี้ขาว ที่เกิดจากแบคทีเรียที่อยู่ในน้ำ ในอาหารกุ้ง และในพันธุ์กุ้ง ทำให้ระบบทางเดินอาหารเสียหาย ตับเสียหาย และกุ้งไม่ลอกคราบ ไม่กินอาหาร 
  5. ลดปัญหาโรคธอร่าซินโดรม ที่เกิดจากเชื้อไวรัสที่มาจากน้ำ จากอาหารกุ้ง และจากพันธุ์กุ้ง ทำให้กุ้งเป็นแผล ผิวมีรอยดำ ทำลายตับ ไต ระบบทางเดินอาหาร
  6. ช่วยการลอกคราบของกุ้งได้ดีขึ้นและเร็ว
  7. ทำให้กุ้งเจริญอาหาร กินอาหารเก่งมาก โตเร็วแข็งแรงไว

บ่อเลี้ยงกุ้งของ คุณเด่นพงศ์ เจตนุรักษ์เลี้ยงอยู่ภาคใต้ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช

กุ้งขาวแวนาไม 44 วัน เลี้ยงด้วยไคโตซาน ฟาร์ม OK ปฎิบัติตามขั้นตอน
-ลอกเลนฉีดพื้นบ่อฆ่าเชื้อ
-ปล่อยน้ำเข้าใช้ปรับสภาพน้ำ
-ใส่ลงถังพันธุ์กุ้งก่อนปล่อย
-ผสมคลุกเคล้าอาหารกุ้งทุกวัน
การใช้ไคโตซาน ฟาร์ม OKในการเลี้ยงกุ้ง

  1. ไคโตซานฟาร์ม OK จะเคลือบอาหารกุ้ง ทำให้แตกตัวช้าลง อาหารกุ้งอยู่ในน้ำได้ประมาณ 12 ชั่วโมง ขึ้นไป โดยไม่เปื่อยยุ่ยง่าย ลดการสูญเสียอาหารเป็นจำนวนมาก น้ำก็ไม่เสีย ดินก็ไม่เสีย ในเมื่อน้ำดี ดินดี ปัญหาเรื่องแอมโมเนีย ค่าPH น้ำ และเชื้อโรคต่างๆ ก็ไม่เป็น ผู้เลี้ยงกุ้งไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะ ไม่ต้องใช้สารเคมีแก้ปัญหากุ้งอีกต่อไป เมื่อกุ้งกินอาหารที่เคลือบไคโตซาน ฟาร์ม OK น้ำย่อยในกระเพาะกุ้ง จะย่อยสารไคโตซานเป็นสารกลูโคซามีนในการสร้างเนื้อ เยื่อ และเปลือกกุ้ง จึงทำให้กุ้งลอกคราบดี กุ้งโตเร็ว กุ้งเนื้อแน่น กุ้งน้ำหนักดี ผิวกุ้งสวย มีลักษณะคล้ายกับกุ้งธรรมชาติ  แนะนำ : เกษตรกร เปลี่ยนมาใช้ ไคโตซาน ฟาร์ม OK เพราะจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆมากมาย ช่วยลดต้นทุนในการเลี้ยงกุ้ง ได้ปริมาณการเลี้ยงกุ้งมากขึ้น ใช้เลี้ยงกุ้งไม่บาง เลี้ยงกุ้งหนาแน่นจะได้ประโยชน์สูงสุด จะคุ้มค่ากับการลงทุนมากกว่า การเลี้ยงกุ้งบาง
#กุ้งป่วยมีลักษณะภายนอกพฤติกรรมต่างๆดังนี้

#กุ้งโตช้า สีคล้ำ
#กุ้งกินอาหารลดขี้กุ้งมีสีผิดปกติ
#กุ้งมักเกาะ ตามขอบบ่อหรือล่องบนผิวไปมา
#ลำตัวขาวขุ่นไม่สะอาด เหงือกมีสีต่างๆ หนวดกุด ขากุดดำ
#ตัวซีด ตับซีด ตับบวมโตหรือหดผิดปกติ
#ลอกคราบแล้ว ไม่แข็งตัว อ่อนแรง ตัวนิ่ม อ่อนเพลีย
#ตัวลำตัวมีสีแดง มีดวงขาว
#ลักษณะอื่นๆ ตามอาการของโรคกุ้ง ฯลฯ 
#หากเกษตรกรเลี้ยงกุ้งใช้ผลิตภัณฑ์ไคโตซาน ฟาร์ม OK สายพันธุ์สั้นไม่มีเคมี รับประกันเลยได้ว่าปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดกับบ่อเลี้ยงของท่าน หรือในพื้นที่ของท่านอย่างแน่นอน "คอนเฟริม์"

เรื่องจริงของ การจัดการพื้นบ่อเลี้ยง


  1. ในความเป็นจริง ผู้เลี้ยงกุ้งส่วนใหญ่ จะใช้ความใส่ใจกับเรื่องน้ำที่ใช้เลี้ยง มองข้ามการปรับปรุงฟื้นฟูดูแลดินพื้นบ่อเลี้ยง จึงทำให้เกิดปัญหาเลี้ยงกุ้งยากขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะบ่อที่เลี้ยงกุ้งมานานโดยไม่พัก หรือไถพลิก หน้าดินเลยทำให้ดินพื้นบ่อเลี้ยง แปรสภาพไปในลักษณะที่ไม่เหมาะสม เป็นดินพื้นบ่อที่เสื่อมโทรม
  2. สังเกตง่ายๆ บ่อเลี้ยง เสื่อมโทรม จะมีลักษณะ ทำสีน้ำยาก สัตว์หน้าดินน้อย กุ้งติดบาง คุณภาพน้ำแกว่ง กุ้งป่วยง่าย ไม่ลอกคราบ เติบโตผิดปกติ กุ้งโตช้า ตัวลีบผอม กุ้งตัวนิ่มตาย และแตกไซส์

ลักษณะพื้นบ่อที่เสื่อมโทรม


  • ทางกายภาพ (Physicals) : ดินที่มีความหนาทึบ ทำให้การระบายอากาศและของเสียไม่ดี
  • ทางเคมี (chemicals) : ดินขาดออกซิเจน มีการสะสมของเสีย พวกแอมโมเนีย ไนไตรท์ ไนเตรท ยาฆ่าแมลง ยาปฏิชีวนะ และโลหะหนัก ที่เป็นอันตรายต่อส่งแวดล้อม ส่งกลิ่นเหม็นเน่า
  • ทางจุลชีพ (Microbrias) : มีความหลากหลาย ของจุลินทรีย์ที่ดีลดลง มีการเพิ่มจำนวนเชื้อโรค ก่อให้เกิดโรคมากขึ้น ปริมาณเชื้อที่มีประโยชน์ลดน้อยลง 
  • หากเกษตรกร ผู้เลี้ยงกุ้งมองนึกภาพ การเลี้ยงกุ้ง ตั้งแต่เริ่มเลี้ยง นี่แหล่ะคือ.ต้นเหตุของการเลี้ยงกุ้ง ควรเริ่มตั้งขั้นตอนที่1.ก่อน แล้วค่อย ขั้นตอน2-3-4 จะเกิดผลเสียน้อยมาก ต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ ลงมือทำใหม่ จะได้ผลลัพพ์ใหม่ๆ และ หากยังมีความคิดเดิมๆ ก็ได้ผลลัพพ์เดิมๆเหมือนที่เคยทำมา คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกทางเดินให้กับตัวเองและครอบครัวได้ค่ะ คิดใหม่ ทำใหม่ เดียวสิ่งดีๆก็เข้ามาหาเราเอง










• LINE :062 013 5665 
• https://line.me/ti/p/hJ7AGHjAZZ>>>คลิ๊กเลย

• ขี้ขาวหายชัวร์(พิชิตขี้ขาว)https://farmokl2512.blogspot.com/2018/12/blog-post.html?m=1>>>คลิ๊กเลย

• กุ้งเป็นขี้ขาว แก้ขี้ขาวหาย บอกลาได้เลย ภาคใต้พื้นที่ตำบลสะกอม อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา https://farmokl2512.blogspot.com/2018/09/ok.html?m=1>>>คลิ๊กเลย

• เลี้ยงกุ้งขาว ใช้อะไรเลี้ยง ถึงไม่เป็นขี้ขาว จังหวัดฉะเชิงเทรา https://farmokl2512.blogspot.com/2018/09/blog-post_19.html?m=1>>>คลิ๊กเลย

• มีพื้นที่ไหนบ้าง ใช้แล้วขี้ขาวหาย เลี้ยงรอด https://farmokl2512.blogspot.com/2018/09/2538-2544-2548-340000-32000-ok-ems-ok.html?m=1>>>คลิกเลย

• กุ้งเป็นโรคขี้ขาว+EMS ภาคใต้พื้นที่ ตำบลบางขนาบนาก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช https://farmokl2512.blogspot.com/2018/10/blog-post_13.html?m=1>>>คลิ๊กเลย

• เริ่มต้นเลี้ยงกุ้งขาว ต้องทำยังไง!! https://farmokl2512.blogspot.com/2019/01/blog-post.html?m=1>>>คลิ๊กเลย


ประสบการณ์จริงจากผู้ขาย ได้ลงพื้นที่ใช้สินค้าไคโตซาน ฟาร์ม OK กับบ่อเลี้ยงกุ้ง ด้วยตัวเอง "กล้ารับประกันได้ว่า..ใช้กับบ่อกุ้งเป็นขี้ขาวหายจริงค่ะ"

• ☝️ลองหาคำตอบให้กับบ่อเลี้ยงกุ้งของคุณได้ที่นี่....✍

ต้องการใช้ด่วน..ในการแก้โรคขี้ขาวสนใจติดต่อ: 062 013 5665



*หมายเหตุ: บริษัทหยุดทุกวันพุธ รถเคอรี่หยุดทุกวันอาทิตย์ และนขัตฤกษ์

โทร : 062 013 5665














  • x