วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

" ตายไปแล้วเหมือนเกิดใหม่ "

สุขภาพดีไม่มีขายถ้าอยากได้ต้องดูแลตัวเอง




เรื่องเล่านี้ชื่อว่า. ตายไปแล้วเหมือนได้เกิดใหม่ฟื้นคืนชีวิตใหม่อีกครั้ง!

เป็นเรื่องใก้ลตัวมากจริงๆ ขอบอกกับทุกๆคนเลยนะ! อย่าประมาทกับชีวิตมันน่ากลัว ถ้ามันเกิดขึ้นกับครอบครัวของใคร?คุณจะจดจำมันจนวันตาย!!!
ประสบการณ์ตรงจากคุณสกล นาคเอี่ยม 
เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 30 พฤษภาคม 2561 ประมาณ 10 โมงเช้า ได้รับโทรศัพท์ของคุณสามีโทรเข้ามา จริงๆแล้วไม่ใช่คุณสามี แต่เป็นคุณพยาบาลที่ใช้โทรศัพท์ของคุณสามีโทรมาแจ้งว่าคุณสามี ชื่อคุณสมปอง นาคเอี่ยม อยู่ที่โรงพยาบาลบางละมุง มีคนนำผู้ป่วยมาส่งไว้ที่โรงพยาบาล จึงได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลบางละมุงกับลูกสาวชื่อน้องใบบัว เมื่อไปถึงโรงพยาบาล คุณพยาบาลเล่าถึงอาการของคุณสามีให้ฟังว่า..มีอาการบ้าคลั่ง ไม่มีสติ ถามอะไรก็ไม่ตอบ ทุรนทุรายเหมือนร่างกายขาดอะไรสักอย่างที่เคยได้รับ คุณหมอเลยให้เอ๊กซเรย์ด่วน!ถามคุณพยาบาลว่าห้องเอ๊กซเรย์ไปทางไหนแล้วตามไปเพื่อดูอาการ เมื่อไปถึงก็ถามหาคนชื่อสมปอง นาคเอี่ยม ที่คุณหมอให้นำมาเอ๊กซเรย์ว่าอยู่ห้องไหน สอบถามทุกคน และทุกห้องที่มีการนำคนเข้าห้องเอ๊กซเรย์ แต่..เจ้าหน้าที่จะไม่ให้เราเข้าไปดูระหว่างทำการรักษาผู้ป่วยเด็ดขาดเลย! ด้วยความเป็นห่วงมาก!เพราะก่อนหน้านี้เมื่อปี2540 เคยป่วยเป็น"โรคเส้นเลือดตีบที่ก้านสมอง"มาแล้วครั้งหนึ่ง จึงได้ขออนุญาตเข้าไปดูให้เห็นกับตาตัวเองว่าเป็นอะไรมากรึป่าว! คุณพระช่วยพอเห็นคุณสามีตกใจม๊ากเลย เมื่อตอนเช้าก่อนออกจากบ้านก็ปกติดีทุกอย่างไม่มีทีท่าว่าจะป่วย หรือแสดงอาการอะไรออกมาให้เห็นเลย! ภาพที่เห็นคือ มีเจ้าหน้าที่ผู้ชาย 5 คน,ผู้หญิง 1คน ช่วยกันกดให้นอนนิ่งๆอยู่กับเตียงเอ๊กซเรย์ ส่วนมือทั้ง2ข้าง,ขาทั้ง2ข้างถูกมัดตรึงไว้กับเตียง ส่วนคุณสามี มีอาการเหมือนที่คุณพยาบาลบอก คือดิ้นทุรนทุราย คลุ้มคลั่ง ใบหน้าดำมาก หลับตา ปากปิดสนิท พยามสบัดมือ ปัดป้อง ไม่ให้ใครมาทำร้ายตัวเอง ท่าทางทรมานมากๆ จึงสอบถามคุณพยาบาลว่า ทำไมเค้าถึงเป็นแบบนี้เมื่อเช้ายังดีๆอยู่เลย พยาบาลบอกว่าก็ไม่ทราบเหมือนกันมีคนพามาส่งที่โรงพยาบาล คุณหมอเห็นอาการคนป่วยท่าทางไม่ดี และสงสัยกับอาการที่เป็นจึงสั่งให้นำมาเอ็กซเรย์ด่วน! คุณสกลจึงขออนุญาตคุยกับคุณสามีต่อหน้าคุณพยาบาลในห้องเอ๊กซเรย์
ช่วง..ที่คุยกับคุณสามี ได้ถามว่าจำหนูได้มั้ย!
คุณสามีมีอาการหยุดดิ้นนิ่งเหมือนได้ยิน เหมือนรู้สึกตัว แล้วบอกว่า พี่ร้อนเหลือเกิน ช่วยถอดเสื้อกับกางเกงออกให้พี่หน่อยพี่ร้อน แล้วช่วยถอดรองเท้าขาซ้ายออกให้ด้วยมันหนักมากเหลือเกิน ทั้งๆที่ขาซ้ายไม่มีรองเท้าใส่อยู่เลย! คุณพระช่วยมันเกิดอะไรขึ้นกับคุณสามี(อุทานอยู่ในใจ) จากนั้นก็ถอดเสื้อและกางเกงขายาวออกให้เหลือแต่กางเกงขาสั้นตัวเดียว จากนั้นคุณพยาบาลก็ฉีดยาให้เพื่อให้หลับแต่ก็ไม่หลับดิ้นทุรนทุรายอยู่ตลอดเวลาบนเตียงเอ๊กซเรย์ (ฉีดยาให้หลับไป 3 เข็ม)
ตอนนั้นเวลาประมาณบ่ายโมงกว่าแล้ว คุณสกลตัดสินใจบอกคุณพยาบาลว่าให้หยุดทำการเอ๊กซเรย์ขออนุญาตนำคุณสามีลงไปพบแพทย์ผู้สั่งการ เมื่อลงไปพบแพทย์ซึ่งเป็นคุณหมอที่รับคุณสามีไว้ช่วงที่มีคนพามาส่งโรงพยาบาล ท่านได้เรียกคุณสกล กับ น้องใบบัว ไปพูดคุยเพื่อสอบถามประวัติของผู้ป่วย พอทราบว่าเคยมีประวัติเป็นผู้ป่วย ด้วย โรคเส้นเลือดตีบที่ก้านสมองเมื่อปี2540 และเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ และเป็นข้าราชการทหารเรือ ปัจจุบันยศเรือตรี จึงได้ขอประวัติมาดูเพื่อทำการวินิจฉัยต่อไป! คุณหมอแจ้งว่าอาการที่เป็นอยู่ในขณะนี้เหมือนคนติดยาเสพติด พอยาหมดไม่ได้เสพเลยมีอาการคลุ้มคลั่งทุรนทุรายเหมือนคนบ้าอยากยา อาการไม่เหมือนคราวที่แล้ว เมื่อได้ฟังคุณหมอพูดจบ! คุณสกล ตัดสินใจในวินาทีนั้นเลย!ขอให้คุณหมอส่งตัวคุณสามีไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์เพราะเคยมีประวัติการรักษาอยู่แล้ว คุณหมอบอกว่าได้ครับดีเหมือนกันเพราะจะได้รักษาต่อเนื่อง แล้วโทรศัพท์ไปติดต่อคุณหมอที่โรงพยาบาลสิริกิติติ์ คุณหมอแจ้งว่าทางโรงพยาบาลสิริกิตติ์จะส่งรถพยาบาลมารับเองให้รอ ช่วงเวลาที่รอรถพยาบาลมารับ คุณสกลไม่ห่างจากคุณสามีไปไหนเลยจะยืนอยู่ใก้ลๆเตียงตลอดเวลา คุณพยาบาลเดินมาบอกให้ไปรออยู่ข้างนอกถึง 3 ครั้ง ออกมานั่งรอนานเหมือนกันเกือบ 5 โมงครึ่ง รถพยาบาลก็มาถึง และเข้าไปรับคุณสามีขึ้นรถ ไปถึงโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ประมาณ 1 ทุ่ม ณ.เวลานั้นคุณสามีรู้สึกมีสติกลับมา อาการเหมือนความจำขาดๆหายๆนึกอะไรไม่ค่อยออก แต่ขาข้างซ้ายมีอาการแข็งมากเอามือจับแล้วบีบทำไมมันแข็งมากขนาดนี้มันเป็นอะไร สงสัยได้ถามคุณสามีว่าทำไมขามันแข็ง คุณสามีตอบว่ามันไม่ได้แข็งอย่างเดียวนะมันปวดม๊ากด้วย หลังจากได้ส่งตัวถึงคุณหมอที่โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์แล้ว คุณหมอให้นอนที่ตึกผู้ป่วยอายุกรรมเป็นห้องรวม ญาติไม่สามารถเฝ้าผู้ป่วยได้
เรา2คนแม่ลูก คุณสกล กับ น้องใบบัว ก็เลยกลับมานอนที่บ้านปล่อยให้คุณสามีนอนอยู่โรงพยาบาลห้องรวมเพียงลำพัง

ช่วงเช้าของวัน ศุกร์ ที่ 31 พฤษภาคม 2561 เดินทางไปถึงโรงพยาบาลสิริกิตติ์ เข้าไปหาคุณสามีที่เตียงเห็นคุณพยาบาล 2 คน กำลังต่อสายยางเข้าที่ปลายน้องชายคุณสามี แล้วมีเจ้าหน้าที่มาเข็นเตียงนำไปฉีดสีเพื่อดูเส้นเลือดว่าเป็นอะไร ได้สอบถามคุณหมอผู้ดูแล คุณหมอแจ้งว่าอาการคนป่วยผิดปกติเพราะโดยปกติแล้วผู้ป่วยที่เข้ามารักษาตัวจะต้องมีการขับถ่ายอุจจาระ,ขับถ่ายปัสสาวะ ตามปกติทั่วไป อีกอย่าง คือไม่ได้นอนทั้งคืน ทั้งที่ฉีดยานอนหลับให้ จึงทำให้คิดว่าต้นเหตุน่าจะเป็นที่เส้นเลือด หากฉีดสีเสร็จจะทราบผลได้ในทันที  เวลาผ่านไปเมื่อฉีดสีเสร็จเรียบร้อย คุณหมอแจ้งว่าต้องเข้าห้อง ไอ.ซี.ยู ด่วน!
ช่วงเวลา13.00น.เป็นเวลาเข้าเยี่ยมผู้ป่วยในห้อง ไอ.ซี.ยู ได้แล้ว คุณสกล ก็เข้าเยี่ยมเหมือนกับคนอื่นๆพอได้เห็นหน้าคุณสามีมีสายอ๊อกซิเจนเสียบที่จมูกและที่ปากเห็นแล้วสงสารจับใจช่วยอะไรก็ไม่ได้ ได้แต่ยืนมองแล้วก็ให้กำลังใจ ปลอบว่าเดียวก็หาย ช่วงนั้นคุณหมอก็อยู่ตรวจพอดี "คุณสามีบอกคุณหมอว่าผมปวดมากเลยครับ ช่วยผมด้วยครับ จะทำอะไรกับผมก็ทำเถอะผมทนไม่ไหวแล้ว" คุณสกลก็จับมือคุณสามี เรา2คนก็จับมือกันแน่นเลย คุณหมอตรวจเสร็จก็เดินออกมาจากเตียงเรียกคุณสกลออกมาคุย คุณหมอแจ้งถึงอาการป่วยของคุณสามี ว่า เส้นหลอดเลือดใหญ่ของหัวใจเกิดการปริแตก ส่งผลให้เลือดที่ส่งไปตามอวัยวะต่างๆไม่สามารถรับเลือดได้ จึงทำให้ภาวะการทำงานของอวัยวะทั้งหมดล้มเหลว ถ้าเรียกตามภาษาทางการแพทย์ คือไตวาย คุณหมอบอกว่าวันนี้เป็นวันศุกร์ คุณหมอที่ผ่าตัดโรคหัวใจไม่อยู่เดินทางกลับบ้านที่กรุงเทพฯ นัดครอบครัวไว้ด้วย เดียวจะโทรติดต่อกลับไปว่าจะสะดวกกลับมาผ่าตัดให้มั้ย เพราะคนป่วยอาการไม่ไหวแล้วต้องผ่าตัดด่วนภายในวันนี้! หลังจากทราบอาการที่คุณหมอแจ้งแล้วว่าคุณสามีต้องเข้าผ่าตัดด่วน!
คุณสกลเดินกลับเข้าไปที่เตียงแล้วบอกกับคุณสามีว่า!คุณหมอจะผ่าตัดให้พี่นะ! เพราะหลอดเลือดหัวใจของพี่ปริแตก!ตอนนี้เลือดที่ซึมออกมาจากหลอดเลือดไหลท่วมเต็มอยู่ในปอด ในไต ในตับ ในช่องท้องของพี่เต็มไปหมด เดียวหมอจะมาวางยาสลบให้พี่นะ! สัญญานะว่าจะกลับมาหานู๋ กับ ลูก ต้องกลับมานะ!อย่าทิ้งนู๋ กับ ลูกไปนะ!เป็นการสั่งลาก่อนที่จะเข้าผ่าตัด


ช่วงเวลา 15.00 น.คุณพยาบาลได้ออกมาเรียกคุณสกลให้เข้าพบคุณหมอ  คุณหมอแจ้งว่าผู้ป่วยมีอาการไตวายเฉียบพลัน! ต้องเข้าห้องผ่าตัดด่วน! การผ่าตัดในครั้งนี้เป็นการช่วยเหลือผู้ป่วย ยังไงก็ต้องผ่าตัดถึงไม่ผ่าตัดผู้ป่วยก็ต้องตายอยู่ดี เสี่ยงผ่าตัดดีกว่า ผลของการผ่าตัด 50/50 รอดหรือไม่รอดก็ต้องมีค่าใช้จ่าย อ่านแล้วเซ็นต์ชื่อให้หมอด้วย ช่วงนั้นหน้าซีดหน้ามืดใจสั่นเหมือนจะเป็นลมล้มทั้งยืน คิดอะไรไม่ออก มึนไปหมดหยิบปากกาเซ็นต์ชื่อเรียบร้อย ก่อนจะเดินออกจากห้องไอ.ซี.ยู ได้หันกลับไปมองที่เตียงคุณสามีปรากฎว่ามีคุณหมอหลายคนมายืนอยู่รอบเตียงของคุณสามีเป็นคุณหมอเฉพาะทางทั้งนั้นเลย! 
คุณหมอเริ่มทำการผ่าตัดเวลา 16.00 น. 
เรา2คนแม่ลูกคุณสกล กับน้องใบบัวและกลุ่ม.HF(ED-RCED)ร่วมกันสวดมนต์อธิฐานขอให้การผ่าตัดผ่านไปด้วยดีและปลอดภัย
เวลา 20.00 น. คุณหมอแจ้งว่าขณะผ่าตัดผู้ป่วยมีอาการไตวายหมดลมหายใจ คุณหมอได้ทำการซ๊อตกลับมาแล้วทำการเปลี่ยนหัวใจจริงออก นำหัวใจเทียมมาทำการผ่าตัดแทน และทำการผ่าตัดต่อจนเสร็จ กระทั่งถึงเวลาตี 5 ของวัน เสาร์ ที่ 1 มิถุนายน 2561 ใช้เวลาในการผ่าตัด 14 ชั่วโมง คุณพยาบาลเล่าให้ฟังว่า คุณหมอที่ผ่าตัดให้คุณสามีหลับคาห้องผ่าตัด เพราะไม่ได้หยุดพักทั้งคืน

ตอนเช้าวัน เสาร์ ที่ 1 มิถุนายน 2561 เวลา 8.00 น. เป็นเวลาเข้าเยี่ยมผู้ป่วยห้องไอ.ซี.ยู คุณสกล กับ น้องใบบัว ก็เข้าไปเยี่ยมคุณสามีในห้องแอดมิดซึ่งเป็นห้องปลอดเชื้อโรค คุณสกลตรงเข้าไปจับมือคุณสามีแล้วเรียกที่หูดังๆ3ครั้ง "พี่ๆกลับมาหานู๋ กับ ลูก เถอะ อย่าทิ้ง นู๋ กับ ลูกไป กลับมานะ กลับมานะ" พอเรียกครบ 3 ครั้ง คุณสามีก็พยายามลืมตา เสียงเครื่องที่จับชีพจรดังลั่นห้องแอดมิดเลย คุณหมอที่อยู่ด้านนอกพากันวิ่งเข้ามาดู 2คน แล้วบอกว่าผู้ป่วยฟื้นแล้ว แล้วแจ้งให้ญาติทราบถึงการผ่าตัด!การผ่าตัดเปลี่ยนหลอดเลือดเป็นสายยางแทนได้ผลดี! แผลผ่าตัดที่เย็บภายในเลือดหยุดไหลแล้ว!ปลอดภัยดี! แต่ต้องรอดูอีก 2 -3 วัน ว่าผู้ป่วยมีการขับถ่ายเองได้มั้ย! ปัสสาวะเองได้รึป่าว! เพราะผู้ป่วยยังช่วยตัวเองไม่ได้ หากไม่สามารถขับถ่ายเองได้ภายใน 2-3 วัน คุณหมอแจ้งว่าต้องใช้วิธีล้างไต ไม่เช่นนั้นระบบภายในของผู้ป่วยไม่ขับถ่ายของเสียออกมาเองได้จะทำให้ผู้ป่วยมีอาการหนักกว่าเดิม ขั้นตอนแรกต้องเจาะช่องท้องเพื่อช่วยล้างของเสียออกมาก่อน เพื่อให้ผู้ป่วยไม่อึดอัดมาก
ภาพโดยรวมตอนนี้คือ ปลอดภัยจากการผ่าตัดเปลี่ยนหลอดเลือดหัวใจ แต่!ยังมีอะไรอีกมากมายที่ต้องเจอ คือ ความจำอาจจะกลับคืนมาไม่หมด และขาข้างซ้ายที่ขาดเลือดไปเลี้ยงนานหลายชั่วโมงอาจเน่าเสียต้องตัดขาทิ้ง ต้องเป็นผู้ป่วยติดเตียงไปตลอดชีวิต เราต้องดูแลกันไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
วันอาทิตย์ ที่ 2 มิย. และวันจันทร์ ที่ 3 มิย.61 อาการคุณสามีก็ยังขับถ่ายเองไม่ได้ และขับปัสสาวะเองไม่ออก คุณหมอต่อสายยางทางน้องชายคุณสามีก็ไม่มีปัสสาวะออกมาให้เห็นเลย คุณหมอแจ้งว่าสงสัยคงต้องล้างไตเพราะผู้ป่วยไม่สามารถขับถ่ายของเสียออกมาด้วยตนเองได้ อวัยวะภายในอาจล้มเหลวในการทำงาน เพราะก่อนผ่าตัดเลือดไหลออกมาท่วมช่องท้อง คุณหมอวินิจฉัย! พรุ่งนี้วันอังคารต้องล้างไต แจ้งคุณพยาบาลเข้าเวรเตรียมเครื่องล้างไตมารอไว้เลย! คุณสกลได้รับแจ้งจากคุณหมอก็เดินไปที่เตียงที่คุณสามีนอนพักฟื้นอยู่ ก้มไปพูดดังๆใก้ลๆที่หูบอกว่าพรุ่งนี้คุณหมอจะทำการล้างไตให้พี่นะ! เพราะพี่ไม่ขับถ่ายเอง! และปัสสาวะเองไม่ได้! อย่า!นอนนิ่งๆควรเบ่งอึ เบ่งฉี่ หน่อยได้มั้ย! แล้วบอกว่าพี่ทำได้!แล้วก็มองตากันให้กำลังใจกัน!ต้องทำนะ!ไม่อย่างนั้นคุณหมอล้างไตพี่แน่นอน!ในระหว่างนั้นที่พูดให้คุณสามีฟังได้เอา (น้ำว่าน อโลเวร่าจุ้ย)ที่แบ่งใส่ขวดเล็กๆใส่มาในกระเป๋าถือเอาออกมาแล้วใช้สำลีชุบแล้วทำทีว่าเอาไปเช็ดปาก!เช็ดหน้า! แท้จริงแล้วเอาไปให้ดูดเพื่อให้ปากคอชุ่มชื้น เพราะหลังผ่าตัดออกมาคุณหมอไม่ให้ผู้ป่วยดื่มเลย หลังจากใช้สำลีชุบน้ำว่านให้ดูดจนหมดขวดเล็กๆก็บอกคุณสามีว่าทำยังไงก็ได้ให้ขับถ่ายออกมาให้ได้คืนนี้! การล้างไตเป็นเรื่องใหญ่มากๆเลยนะ!อย่าให้ถึงต้องล้างไตเลยนะค่ะ
ตอนเช้าวันอังคาร ที่ 4 มิถุนายน 2561 เข้ามาเยี่ยมคุณสามีเหมือนเดิมและทำใจไว้แล้วว่า วันนี้!คุณหมอบอกจะล้างไต พอเข้ามาสิ่งแรกที่เห็น คือ สายยางที่ต่อจากน้องชายสามีในถุงมีน้ำปัสสาวะอยู่ค่อนถุง พอดีคุณพยาบาลที่เข้าเวรอยู่เล่าให้ฟังว่า เมื่อคืนผู้ป่วยขับถ่ายออกมาเยอะมาก และหลายครั้งเปลี่ยนแพมเพิสไปหลายหนเลยไม่ต้องล้างไตแล้ว และผู้ป่วยร้องหิวอยากกินข้าว คุณหมอเลยให้อาหารเหลวทางสายยางไปแล้ว ดูอาการอีกสักวัน คงให้ออกจากห้องไอ.ซี.ยู ได้ยินแล้วรู้สึกดีใจมากเหมือนยกภูเขาออกจากอก เพราะไม่ต้องล้างไตแล้ว!มันแฮ๊บปี๊มากๆดีใจสุดๆโล่งๆๆๆ
วันพุธที่ 5 มิถุนายน 2561 คุณหมอได้แจ้งว่าอาการของผู้ป่วยดีขึ้นเรื่อยๆ พรุ่งนี้จะได้ออกจากห้อง ไอ.ซี.ยู ย้ายไปอยู่ตึกผู้ป่วยสูงอายุ ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกดีใจมาก! ภาวนาอยู่ในใจขอให้อะไรๆกลับมาดีขึ้นเรื่อยๆด้วยเถอะ!
วัน พฤหัสบดี ที่ 6 มิถุนายน 2561 
คุณหมอให้ออกจากห้อง ไอ.ซี.ยู ย้ายไปพักฟื้นที่ตึกผู้ป่วยอายุกรรมตึก2 มาอยู่พักฟื้นก็มีโอกาสทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง โดยการนวดขาข้างซ้ายที่มีอาการน่าเป็นห่วงมากเพราะเป็นสีม่วงๆคล้ายเนื้อมันเสีย คุณหมอบอกว่าต้องใช้เวลา ต้องขยันนวดบ่อยๆ ทำกายภาพบำบัดไปด้วยทุกส่วนของร่างกายเลย ทำจนกระทั่งกลับมาเป็นปกติ ส่วนในตอนเย็นคุณสกลก็นอนพักอยู่ที่โรงพยาบาลสิริกิตติ์ชั้น5 ประมาณตี3 ของทุกวัน จะลงมาเพื่อเอา(น้ำว่าน อโลเวร่าจุ้ย)และ(ไอริสไร้ซ)มาให้คุณสามีดื่มทุกวัน พอเช้า 8โมง ต้องทานข้าว ก็ให้ทาน(โคเอ็นไซน์คิวเทน 2 แคปซูล) และช่วงบ่ายทานข้าว ก็ให้ทาน(โคเอ็นไซน์คิวเทนอีก 2 แคปซูล)ทำแบบนี้ทุกวัน ที่พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล คุณหมอตรวจอาการแผลผ่าตัด เพราะต้องล้างแผลทุกวัน คุณหมอแจ้งว่าดีมากเลย แผลผ่าตัดแห้งดีไม่อักเษมบวมแดงไม่ติดเชื้อเลยอีกไม่กี่วันก็กลับบ้านได้แล้ว
วันที่ 15 มิถุนายน 2561 คุณหมอแจ้งว่าให้กลับบ้านได้ ให้กลับมาพักฟื้นที่บ้าน และมาให้ตรงตามที่หมอนัดทุกครั้ง ทานยาให้ตรงเวลาตามที่หมอสั่ง ซึ่งคุณสามีก็ทำตามคำแนะนำ ของคุณหมอทุกอย่างเลย! แต่!ก็ดื่มน้ำว่าน อโลเวร่าจุ้ย ทุกมื้อทุกวัน ใช้ทาแผลผ่าตัดด้วย และดื่มไอริสไร้ซ ทุกมื้อเพื่อฟื้นฟูเซลล์ต่างๆในร่างกาย เพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกายด้วยโคเอ็นไซน์คิวเทน+ไอริส สาหร่าย สไปรูลิน่า พักฟื้นอยู่กับบ้านได้สักพักพอลุกขึ้นเดินเองไหว ก็พากันไปออกกำลังกายช่วงเย็นทุกๆวัน จนสุขภาพร่างกายกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมปกติดี 
ขอบคุณผลิตภัณฑ์ดีๆ ของบริษัทผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพจำกัด.ที่ได้ให้คุณสมพร ศรุติไพศาล นำกระเช้า(น้ำว่าน อโลเวร่าจุ้ย) และ (ไอริส ไร้ซ) มาเยี่ยมมอบให้กับรต.สมปอง นาคเอี่ยม)ขอบพระคุณค่ะ
สิ่งที่ได้ในการป่วยครั้งนี้ คือ ใช้ชีวิตกันใหม่ รักครอบครัวดูแลตัวเองกันมากขึ้น ไม่ดื่มเหล้าเลิกไปเลย หันมารักกันดูแลกันและกันมากยิ่งขึ้น ใช้เวลาที่อยู่ด้วยกันให้มีความสุขไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน มีเหตุผลมากขึ้น เข้าใจกันมากขึ้น และรักกันมากยิ่งขึ้น ชีวิตเดินทางมาครึ่งร้อยแล้วเหลือเวลาที่จะอยู่ด้วยกันอีกไม่นาน จะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้คุ้มค่ามากที่สุด ให้มีความสุขที่สุดเท่าที่จะทำได้ อยากทำอะไรที่ยังไม่ได้ทำ ก็จะทำให้ดีทีสุด ทำให้สุดชีวิต จะเหลือไว้แต่สิ่งดีๆที่ทำให้กันตอนมีชีวิตอยู่



รวบรวมภาพช่วงรักษาชีวิตกันเอาไว้มาฝาก..ทุกๆท่านที่ได้อ่านเว็บไซด์"ตายแล้วเหมือนเกิดใหม่"มาเป็นวิทยาทาน เป็นสะพานบุญแก่ทุกท่านค่ะ











































รต.สมปอง นาคเอี่ยม ปัจจุบันหายป่วยเป็นปกติสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดีมากๆ ใช้เวลารักษาเพียงปีครึ่ง





ขอบคุณhealthfoods mlm ที่มอบสิ่งดีๆให้ กับ คนไทยทั้งประเทศ

เรื่องจริง ของ..คุณสกล นาคเอี่ยม ขอเผยแพร่เป็นวิทยาทานให้แก่ทุกท่านที่เจ็บป่วย และหาทางแก้ไข และป้องกัน

#โรคหัวใจ #โรคเส้นเลือดตีบ #โรคหลอดเลือด #โรคเมร็ง #โรคเบาหวาน #โรคความดันโลหิตสูง,โรคไขมันอุดตันหลอดเลือด #ท้องผูกขับถ่ายยาก #โรคเครียดนอนไม่หลับ #โรคงูสวัด #โรคเข่าข้ออักเษม #โรครูมมะต่อย ฯลฯ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น