ประโยชน์ของไคโตซานฟาร์มOK
ไคโตซาน (chitosan) หรือเรียก deacetylated chitin เป็นไบโคโพลีเมอร์ที่เกิดจาก
glucosamine และ N- acetylglucosamineประกอบด้วย glucosamine มากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ จัดเป็นสารอนุพันธุ์ของไคตินที่ผลิตได้จากการทำปฏิกิริยากับด่างเข้มข้นเพื่อกำจัดหมู่อะซิติลออก ทำให้โมเลกุลเล็กลง และมีคุณสมบัติที่อ่อนตัวสามารถขึ้นรูปเป็นเจล เม็ด เส้นใย หรือคอลลอยด์ รวมถึงการใช้ประโยชน์ในรูปแบบต่างๆได้มากขึ้น นอกจากนั้น ไคโตซานประกอบด้วยหมู่อะมิโน (-NH2) และหมู่ไฮดรอกซิล (-OH) ที่สามารถทำปฏิกิริยากับสารอื่นเปลี่ยนเป็นสารอนุพันธ์อื่นๆได้หลากหลาย
"ประโยชน์ของไคโตซาน และ ไคติน"
1. ทางการแพทย์
ไคโตซานเป็นสารที่มีคุณสมบัติที่ดีที่สามารถนำมาใช้ในทางการแพทย์ได้หลายรูปแบบ สามารถเตรียมได้ในรูปแบบเม็ดเจล ,แผ่นฟิล์มฟองน้ำ, เพลเลท, แคปซูล และยาเม็ด เป็นต้น
ไคโตซาน และอนุพันธ์ใช้ป้องกันฟันผุ เช่น เอซิลีนไกลคอน-ไคติน, คาบอกซีเมทิล-ไคติน, ซัลเฟตเตด ไคโตซาน และฟอสฟอไลเลตเต็ด ไคติน สามารรถยับยั้งการจับ และก่อตัวของแบคทีเรียบนผิวฟันที่เป็นสาเหตุของฟันผุได้ดี
ไคตินหรือไคโตซานซัลเฟตสามารถยับยั้งการแข็งตัวของเลือด และปลดปล่อย lipoprotein lipase โดยนำมาประยุกต์ใช้ในขั้นตอนการฟอกเลือดเพื่อป้องกันการแข็งตัวของเลือด นอกจากนี้ยังใช้สำหรับรักษาแผล และป้องกันการติดเชื้อของแผลได้ดี
2. การเกษตร
ด้านการเกษตรนิยมใช้ไคติน ไคโตซานในหลายด้านด้วยกัน อาทิ
การใช้เคลือบเมล็ดพันธุ์พืช ป้องกันโรค แมลง การเน่าเสียจากจุลินทรีย์ และยืดอายุการเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์
ใช้เร่งการเจริญเติบโตของพืช ทำหน้าที่เป็นฮอร์โมนกระตุ้นการเกิดราก
ใช้สำหรับปรับปรุงดิน เพิ่มธาตุอาหารในดิน ปรับปรุงดินเค็ม ปรับปรุงดินที่เป็นกรดเป็นด่าง
3. ยา
ไคโตซานที่ใช้เป็นส่วนผสมในยาชนิดต่างๆ จะใช้ทำหน้าที่ป้องกันการย่อยสลายของยาบริเวณกระเพาะอาหาร ซึ่งเป็นสารควบคุมการปล่อยยาหรือเป็นตัวนำส่งยาเข้าสู่ระบบไหลเวียนโลหิต
4. อุตสาหกรรมอาหาร
ใช้เป็นอาหารเสริมที่สามารถให้พลังงาน และช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลชนิด LDL รวมถึงไขมันจำพวกไตรกลีเซอไรด์ในเลือดได้ดี ด้วยการจับตัวกับกลุ่มไขมันทำให้ลดการดูดซึมบริเวณลำไส้จึงนิยมนำไคโตซานผลิตเป็นอาหารเสริมเพื่อลดน้ำหนัก
ป้องกันเชื้อจุลินทรีย์ในอาหาร ด้วยคุณสมบัติของไคติน และไคโตซานที่สามารถจับกับเซลล์เมมเบรน ของจุลินทรีย์ ทำให้เกิดการรั่วไหลของโปรตีน และสารอื่นๆออกมานอกเซลล์จนจุลินทรีย์ไม่สามารถเติบโต และลดจำนวนลง
แผ่นฟิล์มบรรจุอาหาร ด้วยการใช้แผ่นฟิมล์พลาสติกชนิดโพลิเอธิลีนมีข้อเสียทำให้อาหารเน่าเสียเร็ว เนื่องจากกักเก็บความชื้นไว้ภายใน แต่แผ่นฟิมล์จากไคโตซานสามารถยืดอายุอาหารได้ดีกว่า เนื่องจากสามารถถ่ายเทความชื้นจากอาหารสู่ภายนอกได้ดีกว่า
สารเติมแต่งในน้ำผลไม้ ด้วยการเติมสารไคโตซานช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเป็น fining agent และควบคุมสภาพความเป็นกรดของน้ำผลไม้ได้ดี
5. เครื่องสำอางค์
ด้วยคุณสมบัติของไคติน และไคโตซานที่สามารถอุ้มน้ำได้ดี และการเป็นฟิมล์บางๆคลุมผิวหนังป้องกันการเสียความชุ่มชื้นของผิว รวมถึงฤทธิ์ในการต้านเชื้อจุลินทรีย์จึงนิยมนำมาเป็นส่วนผสมของเครื่องสำอางหลายชนิด เช่น แป้งหน้า แป้งผัดหน้า สบู่ ยาสีฟัน ยาสระผม ครีมกันแดด ครีมบำรุงผิว ยาย้อมผม ยาเคลือบผม เป็นต้น
6. ทางด้านสิ่งแวดล้อม
ด้วยคุณสมบัติของไคติน และไคโตซานที่สามารถดูดซับ และจับกับสารอินทรีย์จำพวกไขมัน สี รวมถึงสารจำพวกโลหะหนักได้ดีจึงนิยมนำมาประยุกต์ใช้สำหรับเป็นสารกรองหรือตัวดูดซับสารมลพิษในระบบบำบัดน้ำเสีย
FarmOK nanatech
(ฟาร์มโอเคนาโนเทค)
เสริมสร้างการเจริญเติบโตของพืชทุกชนิด เพิ่มผลผลิตและยั้บยั้งโรคเชื้อรา สารไบโอโพลิเมอร์ชีวภาพสกัดจากธรรมชาติ 100% เหมาะสำหรับ พืชผัก พืชสวน พืชไร่ นาข้าว ไม้ผล ไม้ดอก และไม้ประดับ ซึ่งไคโตซานได้รับการรับรองถึงคุณภาพและความปลอดภัยจากหลายๆสาขา รวมถึง เกษตรกรรมอุตสาหกรรม การแพทย์ และอาหาร ไคโตซานมีประสิทธิภาพด้านเกษตรกรรมในการเพิ่มปริมาณแบคทีเรียในดินและทำให้พืชเจริญเติบโตเร็วขึ้น โดยได้ดัดแปลง Deacetylation และอนุโมเลกุลของไคโตซาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของไคโตซาน ให้ดียิ่งขึ้นในประเทศญี่ปุ่น การใช้ไคโตซานในการเกษตรช่วยลดค่าใช้จ่ายของปุ๋ยให้เหลือครึ่งเดียว มากกว่านั้นผลผลิตเพิ่มเป็น 1.5 เท่าของปกติ
ฟาร์มOK นาโนเทค
นวัตกรรมไคโตซานจากประเทศญี่ปุ่น
#ไคโตซานไม่ผสมสารเคมี สะอาด บริสุทธิ์
#ไคโตซานเป็นสายพันธุ์สั้น
#ไคโตซานมีความเข้มข้นกว่าเท่าตัว
#ลดปริมาณการใช้ปุ๋ย
#ลดการใช้ยาฆ่าศัตรูพืช
#ช่วยเพิ่มผลผลิตมากถึง 25-30%
#ลดต้นทุนได้ถึง 50%
#ใช้ได้กับพืชและสัตว์ทุกประเภท ทุกสภาพดิน
**วิธีใช้**
..นาข้าว..🌾
1.ละลายไคโตซานกับน้ำในอัตราส่วน ไคโตซาน 1,000 ml. 1 แกลลอนผสมน้ำ 1,000 ลิตร (20 ซี.ซี. ต่อน้ำ 20 ลิตร)ฉีดลงดินในนาข้าวก่อนเพาะปลูก
2.ฉีดครั้งที่สองหลังเพาะข้าว ด้ายสารละลายไคโตซาน 1,000 ml. 1 แกลลอน ผสมน้ำ 1,000 ลิตร
3.ฉีดครั้งที่สามก่อนออกดอก ฉีดที่ใบ ด้วยสารละลายไคโตซาน 1,000 ml. 1 แกลลอน ผสมน้ำ 2,000 ลิตร (20 ซี.ซี. ต่อน้ำ 40 ลิตร )
4.ฉีดครั้งที่สี่เมื่อข้าวเริ่มตั้งท้อง ด้วยสารละลายไคโตซาน 1,000 ml. 1 แกลลอน ผสมน้ำ 2,000 ลิตร
5.ฉีดในช่วงเริ่มขัดใบ หรือ ข้างแทงหางปลาทู จะทำให้ออกรวงอย่างสมบูรณ์และเมล็ดเต่ง ด้วยสารละลายไคโตซาน 1,000 ml. 1 แกลลอน ผสมน้ำ 2,000 ลิตร
หมายเหตุ : ไคโตซานเร่งการเจริญเติบโตของรากเป็นส่วนแรก แล้วจึงเร่งการเจริญเติบโตของรวงข้าว
ประเภทมัน, หัวไชเท้า, แครอท, หัวหอม (มันฝรั่ง, มันเทศ, มันสำปะหลัง)
1.ละลายไคโตซานกับน้ำในอัตราส่วน ไคโตซาน 1,000 ml. 1 แกลลอน ผสมน้ำ 1,000 ลิตร (20 ซี.ซี. ต่อน้ำ 20 ลิตร)
ฉีดลงดินก่อนเพาะปลูก
2.ฉีดครั้งที่สองลงดินหลังเพาะปลูก ด้ายสารละลายไคโตซาน 1,000 ml. 1 แกลลอน ผสมน้ำ 1,000 ลิตร
3.ฉีดหนึ่งครั้งเว้น 20วัน –1เดือน ฉีดลงดิน ด้วยสารละลายไคโตซาน 1,000 ml. 1 แกลลอน ผสมน้ำ 2,000 ลิตร
(10 ซีซี./น้ำ 20 ลิตร)
หมายเหตุ : ควรหลีกเลี่ยงการฉีดที่ใบ เนื่องจากใบจะเจริญเติบโตเร็วแต่ผลจะไม่โต
ผักประเภทใบม้วน(ผักกาดขาว,กะหล่ำปลี,ผักกาดแก้ว)
1.ละลายไคโตซานกับน้ำในอัตราส่วน ไคโตซาน 1,000 ml. 1 แกลลอน ผสมน้ำ 1,000 ลิตร (20 ซี.ซี. ต่อน้ำ 20 ลิตร)
ฉีดลงดินก่อนเพาะปลูก
2.ฉีดครั้งที่สองหลังเพาะ ด้วยสารละลายไคโตซาน 1,000 ml. 1 แกลลอน ผสมน้ำ 1,000 ลิตร
3.ฉีดเดือนละ 2-4 ครั้ง ฉีดที่ใบ ด้วยสารละลายไคโตซาน 1,000 ml. 1 แกลลอน ผสมน้ำ 2,000 ลิตร (10 ซี.ซี. ต่อน้ำ 20 ลิตร )
หมายเหตุ : หยุดฉีดไคโตซานเมื่อใบเริ่มม้วน
...ผัก..ผัก..ผัก...
ทั่วไป(แตงกวา,มะเขือเทศ,มะเขือ,ปวยเล้ง,อ้อย)
1.ละลายไคโตซานกับน้ำในอัตราส่วน ไคโตซาน 1,000 ml. 1 แกลลอน ผสมน้ำ 1,000 ลิตร (20 ซี.ซี. ต่อน้ำ 20 ลิตร)
ฉีดลงดินก่อนเพาะปลูก
2.ฉีดครั้งที่สองหลังเพาะ ด้ายสารละลายไคโตซาน 1,000 ml. 1 แกลลอน ผสมน้ำ 1,000 ลิตร
3.ฉีดครั้งที่สามเมื่อเริ่มมี 8-10 ใบ ฉีดที่ใบเดือนละ 2-4 ครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อรา ฉีดพ่นหรือราดลงดิน ด้วยสารละลายไคโตซาน 1,000 ml.
1 แกลลอน ผสมน้ำ 2,000 ลิตร (10 ซี.ซี. ต่อน้ำ 20 ลิตร )
ผักโขม, ผักกวางตุ้ง, ผักคะน้า
1. ปรับสภาพดินก่อนปลูก โดยผสมไคโตซาน 20 ซี.ซี. ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นหรือราดลงดินบนแปลงเพาะปลูกให้ชุ่ม
2. เคลือบ เมล็ดพันธุ์หรือแช่เมล็ดพันธุ์ก่อนปลูก อัตราส่วน ไคโตซาน 50 ซี.ซี. ต่อน้ำ 1 ลิตร แช่เมล็ดใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนปลูก เพื่อป้องกันเชื้อรา กระตุ้นการงอกของรากของเมล็ดพันธุ์ได้ดี เร่งรากให้เจริญเร็วดูดรับสารอาหารได้มากขึ้น
3. ฉีดครั้งที่สองหรือราดลงดินบนแปลงเพาะปลูกหลังเพาะปลูก 2 วัน ด้วยสารละลายไคโตซาน 20 ซี.ซี. ต่อน้ำ 20 ลิตร
4. ฉีดพ่นหรือราดลงดินบนแปลงเพาะปลูกทุก 7 วัน หรือฉีดที่ใบเดือนละ 2-4 ครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อรา
ด้วยสารละลายไคโตซาน 10 ซี.ซี.ต่อน้ำ 20 ลิตร
..ผลไม้..🍅🍊🍓
1.ละลายไคโตซานกับน้ำในอัตราส่วน ไคโตซาน 1,000 ml. 1 แกลลอน ผสมน้ำ 1,000 ลิตร (20 ซี.ซี. ต่อน้ำ 20 ลิตร)
ฉีดลงดินก่อนเพาะปลูก
2.ฉีดครั้งที่สองหลังเพาะ ด้ายสารละลายไคโตซาน 1,000 ml. 1 แกลลอน ผสมน้ำ 1,000 ลิตร (20 ซี.ซี. ต่อน้ำ 20 ลิตร)
3.ฉีดครั้งที่สามลงดินเดือนละ 2-4 ครั้ง ด้วยสารละลายไคโตซาน 1,000 ml. 1 แกลลอน ผสมน้ำ 1,000 ลิตร(20 ซี.ซี. ต่อน้ำ 20 ลิตร )
..ดอกกล้วยไม้🌻🌷
ฉีดสารละลายไคโตซานกับน้ำในอัตราส่วน ไคโตซาน 1,000 ml. 1 แกลลอน ผสมน้ำ 2,000 ลิตร (10 ซี.ซี. ต่อน้ำ 20 ลิตร)
โดยหลีกเลี่ยงดอกและเกสร เดือนละ 2 ครั้ง
หมายเหตุ : ห้ามฉีดสารละลายไคโตซานที่เข้มข้นกว่าที่ระบุ
..ไม้ดอกทุกชนิด ยกเว้นดอกกล้วยไม้
1.ละลายไคโตซานกับน้ำในอัตราส่วน ไคโตซาน 1,000 ml. 1 แกลลอน ผสมน้ำ 1,000 ลิตร (20 ซี.ซี. ต่อน้ำ 20 ลิตร)
ฉีดลงดินก่อนเพาะปลูก
2.ฉีดครั้งที่สองหลังเพาะ ด้ายสารละลายไคโตซาน 1,000 ml. 1 แกลลอน ผสมน้ำ 1,000 ลิตร (20 ซี.ซี. ต่อน้ำ 20 ลิตร)
3.ฉีดครั้งที่สามลงดินเดือนละ 2-4 ครั้ง ด้วยสารละลายไคโตซาน 1,000 ml. 1 แกลลอน ผสมน้ำ 2,000 ลิตร (10 ซี.ซี. ต่อน้ำ 20 ลิตร )
ไคโตซานผสมกับอาหารไก่,หมู,วัว🐂🐖
2.สำหรับไก่ ผสมไคโตซานกับน้ำดื่มของไก่ในอัตราส่วน ไคโตซาน 250 ซี.ซี. ต่อน้ำ 1,000 ลิตร สามารถลดการแตกของไข่ ลดการตายของลูกไก่ เพิ่มระยะออกไข่ และคุณสมบัติเหมือนข้อ 1
ไคโตซานผสมปุ๋ยอินทรีย์ ผสมไคโตซานกับปุ๋ยในอัตราส่วน ไคโตซาน 5-10 ซี.ซี. ต่อปุ๋ยอินทรีย์ 1 กิโลกรัม ผสมลงดินที่จะเพาะปลูกหนึ่งครั้งก่อนออกดอกหนึ่งครั้ง แนะนำสำหรับช่วงหน้าฝน และพื้นที่ที่มีน้ำกักขัง
ฆ่าเชื้อและยับยั้งการเน่าของผักและผลไม้
ผสมไคโตซานและน้ำในอัตราส่วน ไคโตซาน 250 ซี.ซี. ต่อน้ำ 200 ลิตร หลังจากนั้น แช่ผัก และผลไม้ 2-5 นาที สามารถฆ่าเชื้อและยับยั้งการเน่าของผักและผลไม้
..ข้อควรระวังในการใช้ไคโตซาน
1.ทางบริษัทมั่นใจถึงประสิทธิภาพของสินค้า และประสิทธิภาพของไคโตซานอาจลดลงหากใช้ ไคโตซานที่เกิน 1 ปี หลังการผลิต
2.ควรเก็บไว้ในอุณหภูมิห้อง
3.หากจะใช้สารผสมไคโตซานกับปุ๋ยน้ำ ให้ทดลองผสมในปริมาณเล็กน้อย หากไม่ละลายเป็นเนื้อเดียวกันไม่ควรใช้
4.ไคโตซานเป็นสารที่ช่วยทำให้ แบคทีเรียในดินเจริญเติบโตได้ดีช่วยย่อยสลายธาตุอาหารของพืช จึงมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ควบคู่กับปุ๋ย
ผสมอาหารสัตว์ 5-10 CC : อาหาร 1 กก.
ผสมน้ำให้สัตว์ 250 CC : น้ำ 100 L.
ไคโตซานผสมปุ๋ยอินทรีย์ 5-10 CC : ปุ๋ย 1 กก.
ฆ่าเชื้อและยับยั้งการเน่าของผักและผลไม้ 250 CC : น้ำ 200 L. แช่ผักและผลไม้ 2-5 นาที
วิธีใช้ 1 CC ต่อน้ำ 1 ลิตร
ปริมาณ 1 แกลลอน บรรจุ 1 ลิตร
ขอบคุณข้อมูลจาก..
เคดิต : HEALTHFOODS
........................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น